สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความนี้ผมขอแบ่งปันพฤติกรรมของครอบครัวเราที่อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งก็ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เราปรับการปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น โดยผมขอแบ่งปันเป็นข้อๆ นะครับ ซึ่งถ้าลองพิจารณาดูจะเห็นว่า ครอบครัวของเราก็ไม่ถึงกับไม่ออกไปไหนเลย สามารถไปไหนมาไหนได้ ในสภาพความเป็นจริงไม่ได้ถึงกลับน่ากลัวแบบในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง เพราะในชีวิตจริงเรายังคงต้องดำรงชีวิตตามปกติ ผมขอเริ่มไล่ตามลำดับดังนี้
สำหรับวีดีโอนี้ เป็นวีดีโอของจีนที่ปิดเมือง ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราต้องการให้ประเทศไทยก้าวข้ามการแพร่ระบาด ให้สามารถควบคุมได้ การพยายามเดินตามจีน ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องทำแบบจีนอยู่ดี ไม่งั้นก็ไม่สามารถที่จะผ่านเหตุการณ์สำคัญระดับโลกนี้ได้ แต่หากว่าประชาชนทุกท่านพึ่งตนเอง อย่างที่ประเทศจีนทำ โดยไม่ต้องรอประกาศจากรัฐบาล แสดงว่า เราพิจารณาแล้วว่า สิ่งใด เรื่องใด ที่เราทำได้ เราลงมือทำด้วยตัวเอง ร่วมมือกันคนละเล็กละน้อย ภาพรวมสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับครับ
ประเทศไทย... สู้ๆ ครับ
เรื่องที่ต้องทำต่อในอนาคตอันใกล้นี้คือ การนำเครื่องฟอกอากาศมาทดลองใช้ครับ เพื่อจะเชื่อมโยงงานใหม่ที่กำลังตั้งไข่อยู่ครับ
- ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือ การล้างมือ หลักปฏิบัติข้อนี้ ครอบครัวเราถือเป็นกฎเหล็กก็ว่าได้ เพราะจะล้างมือบ่อยมาก แม้ว่าจะอยู่ในบ้านแล้วก็ตาม สอนลูกบ่อยจนลูกน่าจะรำคาญเลยละ คุยกับภรรยาประจำว่า ลูกคงเบื่อเราสองคน
- สำคัญรองลงมา คือ ครอบครัวเราจะดื่มน้ำสะอาดที่ไม่แช่เย็น ทุกวัน โดยเฉลี่ยคนละ 2 ขวดใหญ่ ขวดละ 1.5 ลิตร หรือดื่มวันละ 3 ลิตรต่อวัน หรือถ้าวันไหนไม่ดื่มน้ำสะอาดครบ 2 ขวด อาจดื่มเพียง 1 ขวด แต่จะมีของเหลวอื่นชดเชย เช่น น้ำเต้าหู้ นมวัว (ลูกสาวดื่มวันละ 2 กล่อง) น้ำจากก๋วยเตี๋ยว น้ำผลไม้ กาแฟ (ผมกับภรรยาจะดื่มประจำ) น้ำอัดลม (สัปดาห์ละครั้ง) เป็นต้น ซึ่งการดื่มน้ำสามารถช่วยได้โดยเฉพาะสถานการณ์ตอนนี้
- พฤติกรรมนี้เราจะทำกันประจำ คือ เวลามีเสมหะจะคายใส่กระดาษทิชชู่ แล้วทิ้งทันที แต่ก็ต้องเปลืองกระดาษทิชชู่แบบบรรจุกล่อง หน่อยนะครับ ที่สำคัญทิชชู่แบบกล่องจะไม่มีฝุ่นเลยครับ ตรงนี้เยี่ยมมากๆ และสะอาด ผมใช้ปกปิดอาหรที่กำลังจะทานแต่ยังทานไม่หมดเป็นประจำครับ ป้องกันฝุ่น
- เวลาผมกับภรรยาไปนอกบ้านแล้วต้องขึ้นลิฟท์ จะพยายามไม่พูด และจะกลั้นหายใจจนกว่าขะถึงที่หมาย แน่นอนว่าสถานการณ์ช่วงนี้คือ ต้องใส่หน้ากาก ชัวร์กว่ากลั้นหายใจ
- ผมจะพกแอลกอฮอล์เวลาออกนอกบ้าน เพื่อล้างมือให้สะอาด และถือโอกาสเสยผมไปในตัว
- ห้ามลูกเอามือไปจับนี่ นั่น โน่น เพราะว่ากำลังซน ชอบจับไปเรื่อย
- ถ้าไปนอกบ้าน กลับถึงบ้านจะเอาเสื้อคลุมตัวนอก เสื้ิอแจ็คเก็ต ไปใส่ตระกร้าซักล้างทันทีเพื่อรอซักด้วยเครื่อง
- ซองเอกสาร สิ่งของ ท่มาจากข้างนอก รีบนำเอกสารออก แล้วโยนทิ้งถังขยะ แล้วล้างมือทันที
- ปัจจุบันตากเสื้อผ้าภายในบ้าน
- พยายามไม่ไปนอกบ้าน ถ้าไปต้องจำเป็นจริงๆ และช่วงนี้ งดรับแขกมาที่บ้าน
- ข้อนี้ต้องยกเครดิตให้ภรรยา คือเวลาไปนอกบ้าน ภรรยาจะแบกผมขึ้นลงรถเข็นครับ เพื่อเลี่ยงสัมผัสกับ จนท.รปภ. ครับ
- ส่วนเรื่องร้านค้าที่ครอบครัวเรา ยอมเจ็บตัว คือ ปิดรจ้านไม่มีกำหนด เพราะไม่ต้องการให้ร้านค้าของเราเป็นสถานที่แพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ไปด้วยครับ อย่างน้อยก็ตัดตอนไปได้พอสมควรครับ
- และแน่นอนว่า ถ้าออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัยครับ
สำหรับวีดีโอนี้ เป็นวีดีโอของจีนที่ปิดเมือง ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราต้องการให้ประเทศไทยก้าวข้ามการแพร่ระบาด ให้สามารถควบคุมได้ การพยายามเดินตามจีน ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องทำแบบจีนอยู่ดี ไม่งั้นก็ไม่สามารถที่จะผ่านเหตุการณ์สำคัญระดับโลกนี้ได้ แต่หากว่าประชาชนทุกท่านพึ่งตนเอง อย่างที่ประเทศจีนทำ โดยไม่ต้องรอประกาศจากรัฐบาล แสดงว่า เราพิจารณาแล้วว่า สิ่งใด เรื่องใด ที่เราทำได้ เราลงมือทำด้วยตัวเอง ร่วมมือกันคนละเล็กละน้อย ภาพรวมสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับครับ
ประเทศไทย... สู้ๆ ครับ
เรื่องที่ต้องทำต่อในอนาคตอันใกล้นี้คือ การนำเครื่องฟอกอากาศมาทดลองใช้ครับ เพื่อจะเชื่อมโยงงานใหม่ที่กำลังตั้งไข่อยู่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น