สวัสดีครับทุกท่าน บทความนี้ขออนุญาตยาวสักนิดนะครับ เพราะว่าผมขอรณรงค์ให้คนพิการ ปฏิวัติตัวเองมาเป็นผู้ให้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลองศึกษาเหตุผลร่วมกันนะครับ สืบเนื่องจากส่วนใหญ่ทั่วประเทศคนพิการมีฐานะยากจน และส่วนใหญ่มักถูกสังคมขีดเส้นใต้ไว้แล้วว่า เป็นกลุ่มประชากรที่มักเป็นผู้รับ เนื่องจากในอดีตการดูแลคนพิการในประเทศอยู่ภายใต้ร่มเงาของการสงเคราะห์มาโดยตลอด แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นสถานะที่ประเทศดูแลคนพิการในรูปแบบสิทธิมนุษยชนแล้วก็ตาม คนพิการส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องพึ่งพารัฐสวัสดิการเป็นหลักอยู่ดีครับ
แต่ความเชื่อส่วนตัว
“ยิ่งให้ยิ่งได้” ที่ไม่ได้หมายถึงการให้เงินทองมากมายไปกับกับทำบุญ ทำทาน
เพราะทุกวันนี้เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า “การให้” ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทองมากมาย
เราอาจจะใช้ความสามารถ การให้เวลา การบริจาคโลหิต การออกแรงช่วยสังคม เป็นต้น
หลากหลายรูปแบบ แต่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ พบว่า
กลุ่มแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดฯ เช่น
กู้ภัย ตำรวจ อาสาสมัคร กลับไม่ได้รับอุปกรณ์หรือวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์
อย่างเพียงพอ ทำให้เจ้าหน้าที่ ที่เปรียบเสมือนด่านหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่ร้ายกาจตัวนี้
อยู่ในสภาวะเสี่ยงกับการติดเชื้อเป็นอย่างมาก
ผมจึงออกมารณรงค์ให้คนพิการและครอบครัว
ร่วมกันแสดงพลังของคนตัวเล็กตัวน้อย กลุ่มคนที่สังคมตีตราแล้วว่า คอยแบมือขออยู่ฝ่ายเดียวร่ำไป
ลุกขึ้นมาเป็น “ผู้ให้” ร่วมกันแสดงพลังให้สังคมได้เห็น
ว่าถึงเราจะมีเงินทิงไม่มาก มีน้อย แต่ก็มีจิตใจที่เปี่ยมล้นอยากมีส้วนร่วมในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างสุดกำลัง ด้วยการบริจาคเงินคนละ 5 บาท ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ
โดยผมตั้งชื่อการรณรงค์นี้ เป็นภาษาอังกฤษว่า “FIVE FIGHT
COVID” หรือชื่อภาษาไทยว่า “5 บาทต้านโควิด”
ครับ
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนพิการทุกท่านนะครับ
หลายครอบครัว มีเงินน้อย อาจจะลำบากตรากตรำ มีความทุกข์ เงิน 5 บาท สามารถซื้อไข่ไก่
ซื้อผัก มาทำกับข้าวกินได้ แต่การเปลี่ยนวิธีคิดที่จะเริ่มเป็นผู้ให้บ้างนั้น
อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของคนพิการและครอบครัวได้อย่างน่าอัศจรรย์
ผมอยากแบ่งปันบทความที่ผมอยากพิมพ์เผยแพร่มานานแล้ว
เป็นชีวิตของพี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง ชื่อว่า พี่เล็ก มีเรื่องราวน่าสนใจอย่างมาก
ผมตั้งชื่อบทความนี้ว่า “สุนัขคาบหัวปลา” หากคนพิการและครอบครัว ได้ลองอ่าน และคิดตามได้แล้ว
อาจมีกำลังใจ และอาจอยากเป็นผู้ให้ ที่แม้แต่สุนัขในบทความ ยังเป็นผู้ให้ได้
แล้วพวกเราที่ยังมีลมหายใจอยู่ จะเป็นผู้ให้ ไม่ได้ได้อย่างไร สำคัญไม่แพ้กัน
โอกาสนี้ที่เชื้อไวรัสโควิดกำลังแพร่ระบาด เงิน 5 บาท จะมีคุณค่าอย่างมาก
เพราะมาจากใจที่ยินดี
ที่เต็มเปี่ยมและปลาบปลื้มจะร่วมสมทบให้โรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอยู่อย่างมาก
บทความ
“สุนัขคาบหัวปลา” https://updatecovid-19.blogspot.com/2020/04/1.html และผมยังขอนำคลิปนิทานธรรมะ มาแบ่งปันด้วยครับ
“สองผัวเมีย ทำบุญสองสลึง
ทำให้แผ่นดินไหว” |
นิทานธรรมะ EP.1 | PURIFILM channel
เมื่อได้อ่านบทความ “สุนัขคาบหัวปลา” และดูคลิปธรรมะ
จบแล้ว ก็อาจจะเริ่มมีทรรศนะคติในการเป็นผู้ให้ ที่เราสามารถจะให้ผู้อื่นได้ แม้ว่าเราจะไม่ต้องมีเงินทองมากมายเสียก่อน
ท้ายบทความนี้ผมได้นำโปสเตอร์ของโรงพยาบาลต่างๆ ที่ขอรับบริจาคเงินเพื่อซื้อวัสดุ
อุปกรณ์การแพทย์ ต้านไวรัสโควิด ท้ายนี้ผมก็ขอรณรงค์ให้คนพิการและครอบครัว
ร่วมกันบริจาคเงิน 5 บาท ภายใต้แคมเปญการรณรงค์ “5 บาทต้านโควิด” หรือ “FIVE FIGHT
COVID” ร่วมกันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น